รวมทุกกลอุบายหลากหลายวิธีการของมิจฉาชีพ ในสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก
ยุโรปน่ากลัวนะ มิจฉาชีพเยอะ … โดนขโมยพาสปอร์ต … โดนล้วงกระเป๋า … เชื่อหรือไม่ครับว่าปัญหาเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่มันเกิดจากความเป็นมืออาชีพของกลุ่มมิจฉาชีพที่เก่งขึ้นทุกวัน ทำงานร่วมกันเป็นทีม และพร้อมที่จะรูดทรัพย์ของนักท่องเที่ยวได้อย่างมากมายมหาศาลทุกวัน
วันนี้ขอรวบรวมทุกมุกยอดนิยม ที่มิจฉาชีพทั่วโลกใช้ในการเล่นงานนักท่องเที่ยว เพื่อที่ทุกคนจะได้เดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น และไม่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพที่คอยดักรอรูดทรัพย์ของคุณอยู่แทบจะทั่วทุกมุมโลก
1) ฉันหลงทาง

มุกยอดนิยมที่สุด และได้ผลดีงามสุดๆ คือมุกหลงทาง กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะทำงานเป็นทีม โดยมีคนหน้าตาไว้ใจได้ แต่งตัวเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนพวกเรา แต่จะมีอุปกรณ์หากินประจำตัว คือแผนที่กระดาษขนาดใหญ่ และจะพุ่งมาถามทางเราโดยเอาแผนที่มาเปิดกางไว้ตรงหน้า จากนั้นมิจฉาชีพอีกคน จะพุ่งเข้ามาล้วงกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าที่เราสะพายไว้ข้างๆ หรือกระเป๋าที่เราวางไว้กับพื้น แป๊บเดียว หายเรียบ *ระวัง กลุ่มนี้อาจมีมากกว่า 2 คน คืออาจมีคนช่วยดูลาดลาวด้วย*
พื้นที่: พบเห็นได้มาก ในแถบยุโรป
2) ขอทาน

ขอทาน พบเห็นได้ทั่วไปแบบที่เราอาจไม่ได้เอะใจ แต่ขอทานมือโปร ตามสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ ไม่ได้ทำงานคนเดียวเช่นกัน และเป็นขอทานที่ดูน่าสงสารสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นคนแก่หลังค่อมมากๆ หรือแม้กระทั่งคนท้อง พยายามขอเศษเหรียญหรือแบงก์ย่อยๆ จากคุณผู้อ่าน การหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา ทำให้คนในทีมที่คอยจ้องอยู่ รู้ได้ทันทีว่า คุณเก็บกระเป๋าเงินไว้ที่ไหน เพื่อที่จะปฏิบัติการตามข้ออื่นๆ ในลิสต์นี้ต่อไป
พื้นที่: พบเจอได้ ทั่วโลก
3) กำไลข้อมือ สายสิญจน์ ตัวอันตราย

หากคุณผู้อ่านกำลังเดินท่องเที่ยวอยู่ และมีกลุ่มคนท้องถิ่นพยายามเอากำไลข้อมือมาใส่ให้ หรือสายสิญจน์มาผูกให้ที่ข้อมือ จงรีบปฏิเสธอย่าให้ปฏิบัติการนั้นสำเร็จเป็นอันขาด ไม่ว่าคนท้องถิ่นกลุ่มนั้นจะใช้คำพูดที่เป็นมิตรขนาดไหนก็ตาม (ส่วนมากจะเรียกนักท่องเที่ยวด้วยคำว่า my friend) หรืออาจจะใช้คำพูดที่สื่อว่า เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ รวมถึงบอกว่าเป็นของที่ระลึก … จงปฏิเสธให้เร็วที่สุด เพราะมันไม่ฟรี และมันแพงมากอย่างไม่น่าเชื่อ ซ้ำร้ายกว่านั้น บางที่อาจใช้ในการดึงความสนใจ เพื่อล้วงกระเป๋าสะพาย หรือกระเป๋ากางเกงของคุณได้อีกด้วย
พื้นที่: พบเจอได้ ในแถบยุโรป ฝรั่งเศส อิตาลี ฯลฯ โดยเฉพาะตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ หอไอเฟล ดูโอโม่
4) การแสดงริมถนน ทั้งสนุกและอันตราย

เราคงคุ้นเคยกับการแสดงริมฟุตบาท ด้วยนักแสดงที่มีความแสดงเฉพาะตัวหลากหลายรูปแบบตามสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ๆ กันนะครับ ซึ่งก็มีบางจุดที่ควรระมัดระวังเช่นกัน นั่นคือการแสดงบางอย่าง เกิดจากกลุ่มหน้าม้าของมิจฉาชีพ ที่รุมดูให้เกิดความน่าสนใจ และเกิดความน่าสงสัยของนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา โดยเฉพาะการแสดงที่มีการเล่นเกมกับคนดู (ไม่ใช่แสดงด้วยตัวคนเดียวเฉยๆ) ซึ่งจะเกิดการดึงจุดสนใจได้ง่าย และทำให้นักท่องเที่ยวถูกล้วงกระเป๋าได้ง่ายกว่าปกตินั่นเอง
พื้นที่: พบเจอได้ ในแถบยุโรป เมืองใหญ่ๆ
5) ศิลปินกับแผ่น CD

กลุ่มนี้ จะแต่งตัวเป็นนักร้อง โดยมีอุปกรณ์เป็นกีตาร์ พร้อมปกอัลบั้มแขวนอยู่ และจะมาพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ว่าตนเป็นศิลปินโลวเทค ที่กำลังย่ำแย่ ไม่เท่าทัน iTunes ไม่รู้เรื่อง Apple Music ไม่รู้เรื่องโซเชียลมีเดีย ถ้าคุณรับเอา CD ไปช่วยโปรโมตผ่านโซเชียลมีเดียได้ จะดีกับเค้ามากๆ โดยพยายามยัดเยียด CD ให้คุณ เมื่อคุณรับมาแล้ว แน่นอนว่า เขาจะเรียกเก็บเงินค่า CD จากคุณ ซึ่งถ้าปฏิเสธ ก็จะมีเพื่อนๆ ออกมารุมพูดคุยให้คุณต้องจ่ายให้ได้
พื้นที่: พบเห็นได้ ในสหรัฐอเมริกา
6) ถ่ายรูปให้หน่อย

มิจฉาชีพกลุ่มนี้ จะมาพร้อมกับมุก “ถ่ายรูปให้หน่อย” ด้วยกล้องที่ใช้งานไม่ได้ เมื่อถ่ายไม่ได้ ตอนส่งคืนกลุ่มนี้จะตั้งใจทำกล้องหล่นจากมือตอนรับกล้องคืน และจะขอให้คุณชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ใช่ถูกๆ เลยล่ะ และถ้าไม่ยอมจ่าย ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเขามีพวกเยอะกว่าเราแน่นอน
7) ถ่ายรูปให้มั้ย
:max_bytes(150000):strip_icc()/man-taking-a-picture-864436794-5a3188d84e46ba00369ceca6.jpg)
ถัดจากมุก “ถ่ายรูปให้หน่อย” ก็ยังมีมุก “ถ่ายรูปให้มั้ย” อีก มุกนี้มักจะเข้ามาหานักท่องเที่ยวคู่รัก ที่กำลังสลับกันถ่ายรูปเดี่ยวของอีกคน โดยไม่มีรูปคู่เป็นของตัวเองสักที สิ่งที่จะเจอก็คือ นักท่องเที่ยวอาจโดนเก็บเงินค่าถ่ายรูปอย่างหน้าด้านๆ หรือถ้าแย่กว่านั้นก็คือ อาจโดนวิ่งราวเอากล้องถ่ายรูปไปแบบต่อหน้าต่อตา
8) เสื้อเลอะ เดี๋ยวเช็ดให้

กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จะจงใจทำเสื้อ Jacket ของเราเปื้อน ไม่ว่าจะใช้น้ำสีๆ, ซอสมะเขือเทศ, มายองเนส หรือ ครีม โดยที่เราไม่รู้ตัว จากนั้นก็จะมีคนมาหวังดี ช่วยบอกว่าเสื้อเราเปื้อนนะ เดี๋ยวจะช่วยเช็ดออกให้ จังหวะที่เข้ามาช่วยนั่นแหละ ที่จะเป็นช่องว่างให้ล้วงกระเป๋าได้ง่าย เพราะมีการเข้าถึงตัวโดนไม่ทันได้ระวัง ส่วนตำแหน่งของกระเป๋าเงินของเราก็ไม่ยาก เพราะอาจจะถูกสังเกตมาจากการใช้มุกอื่นๆ ในลิสต์นี้นั่นเอง
9) กระเป๋าเงินใคร ทำหล่นไว้

สัญชาตญาณมนุษย์ เมื่อเดินเจอกระเป๋าเงินหล่นไว้ที่พื้น เรามักจะเช็คกระเป๋าเงินตัวเองเสมอ แม้ว่ากระเป๋าเงินใบนั้นจะไม่ได้มีหน้าตาเหมือนของเราเลยก็ตาม มิจฉาชีพที่จ้องอยู่ จะรู้ตำแหน่งของกระเป๋าเงินของเราได้จากจังหวะนี้ ส่วนกระเป๋าเงินที่ถูกตั้งใจวางหล่นไว้ ก็อาจจะพาไปยังมุกมิจฉาชีพอื่นๆ เช่น ตำรวจปลอม ในข้อถัดไป
10) ตำรวจปลอม

ตำรวจปลอมนี่น่ากลัวอย่างมาก ในประเทศที่เราไม่รู้ว่าตำรวจแต่งตัวอย่างไร หรือต้องมีลักษณะอย่างไรบ้าง จะพุ่งเข้ามาหาเราในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อพาเราไปยังแหล่งของเขา ทั้งห้องที่สามารถดักปล้นได้ หรือแม้กระทั่งการขอตรวจค้นกระเป๋าเงินของเรา ด้วยมุกทั่วๆ ไป เช่น สงสัยว่าเรามีแบงก์ปลอม และฉวยจังหวะในการฉกเงินไปอย่างแนบเนียน หรืออาจจะขอดูพาสปอร์ตและวีซ่า เพื่อแกล้งบอกว่าวีซ่ามีปัญหา และพาเราไปยังแหล่งซ่องสุมของโจรได้โดยง่าย
11) ตั๋วปลอม

นักท่องเที่ยวที่ต่อคิวซื้อตั๋วอะไรบางอย่าง อาจจะเจอกับมิจฉาชีพที่แต่งตัวคล้ายกับเจ้าหน้าที่ของสถานที่นั้นๆ เสนอให้ลัดคิว เพื่อขายตั๋วให้ โปรดระวังให้ดี ว่าอาจจะได้ตั๋วปลอมที่ใช้งานไม่ได้ (แม้ว่าบางครั้งจะขายให้เราในราคาปกติเลยก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัย) แนะนำให้ต่อคิวตามปกติ และซื้อตั๋วในเคาน์เตอร์เท่านั้น
12) กุหลาบแทนความรัก

นักท่องเที่ยวคู่รัก อาจเจอมุกนี้ได้ไม่ยากเย็น มิจฉาชีพจะเข้ามาหาฝ่ายชายพร้อมกับดอกกุหลาบ เพื่อบอกให้ฝ่ายชายมอบกุหลาบให้แฟนสาว และจะคิดราคาค่าดอกไม้แพงอย่างเหลือเชื่อ ถึงตรงนี้ก็วัดใจกันแล้วล่ะ ว่าจะยอมจ่ายหรือยอมเสียหน้า ส่วนมากคู่ที่โดนจะเป็นนักท่องเที่ยวคู่รักจากแถบเอเชีย
13) ขัดรองเท้า เงาวิบวับ

มิจฉาชีพจะทำแปรงขัดรองเท้าตกอยู่ข้างหน้า พอนักท่องเที่ยวเก็บให้ ก็จะได้รับคำขอบคุณพร้อมกับข้อเสนอว่าจะขัดรองเท้าให้ ซึ่งก็จะถูกคิดค่าบริการในราคาสูงอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน มุกนี้จะโดนกับนักท่องเที่ยวที่ใส่รองเท้าหนัง
พื้นที่: พบเจอได้มากในประเทศตุรกี
14) ดูดวง ทำนายอนาคต

มิจฉาชีพกลุ่มนี้ จะเป็นกลุ่มผู้หญิงสูงอายุ ที่จะเข้ามาทักอย่างเป็นมิตร จับมือ และอ่านลายมือเพื่อดูดวงให หลังจากนั้น ก็จะคิดค่าบริการ ซึ่งถ้าเราไม่จ่าย จากคำดูดวงก็จะเปลี่ยนเป็นการสาปแช่ง ในลักษณะของการใช้เวทเมนตร์หรือมนตราต่างๆ ที่ดูน่ากลัวไม่ใช่เล่น
พื้นที่: พบเจอได้มากในประเทศอินเดีย
15) แท็กซีเถื่อน

ตามสถานีขนส่งหลักของเมืองท่องเที่ยว มักจะมีกลุ่มมิจฉาชีพที่เป็นลักษณะของรถรับจ้าง ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่เถื่อน หรือ รถตู้ที่คอยให้บริการระหว่างเมืองแบบไม่เป็นทางการ รถเหล่านี้มักจะชาร์จราคาค่าเดินทางสูงผิดปกติ ซึ่งอาจแพงกว่าราคาทั่วไปถึง 5-10 เท่าตัว แนะนำให้นักท่องเที่ยวหาข้อมูลการเดินทางก่อนจะไปทุกเมืองที่ไม่คุ้นเคยว่าเราสามารถเดินทางด้วยวิธีใดได้บ้าง อย่าเรียกใช้บริการรถเถื่อน หรือหลงเชื่อการเข้ามาสอบถามตามสถานีขนส่งต่างๆ เป็นอันขาด
พื้นที่: มุกนี้พบเจอได้ทั่วโลก (ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย อิอิ)
16) แท็กซี่เชิดกระเป๋า
แม้กระทั่งแท็กซี่ปกติ ก็อาจเป็นมิจฉาชีพได้ มุกนี้คือคนขับแท็กซี่จะลงมาช่วยขนกระเป๋าเมื่อถึงที่หมายปลายทาง แต่จะเร่งรีบในการออกรถไป โดยตั้งใจให้เหลือกระเป๋าเดินทางของเราเอาไว้ในรถ (อาจจะเป็นใบเล็กสุดที่เราไม่ทันได้ระวัง) เพื่อขโมยกระเป๋าไปทั้งใบ
พื้นที่: พบเจอได้ในลาสเวกัส และเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
17) โจรรถไฟ

การเดินทางด้วยรถไฟ มีจุดที่ต้องให้ระวังเยอะ โดยเฉพาะการวางกระเป๋าหรือสัมภาระไว้ห่างตัว เช่นวางไว้ในช่องเก็บกระเป๋าระหว่างตู้รถไฟ หรือวางไว้บนช่องเก็บเหนือศีรษะ เพราะจะมีมิจฉาชีพกลุ่มที่ตั้งใจขึ้นกวาดของมีค่าจากกระเป๋านักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีการเล็งเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ถ้าเราหลับไป หรือ เผลอไม่ได้มองมายังช่องเก็บกระเป๋า (โดยเฉพาะที่นั่งที่มีการหันหลังให้กับพื้นที่เก็บกระเป๋า) ก็เสร็จโจรได้ไม่ยาก
พื้นที่: พบเจอได้มากทั่วยุโรปที่มีการใช้รถไฟเป็นหลัก
18) จอมเขี่ย จอมเกี่ยว
นักท่องเที่ยวหลายคน แม้จะระมัดระวังสิ่งของแล้วก็ยังไม่วายโดนฉกไปทั้งกระเป๋าจนได้ แม้จะนั่งอยู่ในร้านอาหาร วางกระเป๋าไว้ใกล้ตัว หรือวางไว้ที่พื้น ใต้โต๊ะ ใต้เก้าอี้ของตัวเองแล้วก็ตาม วิธีการของมิจฉาชีพกลุ่มนี้คือ ใช้ไม้ หรือ ร่มในการเกี่ยวกระเป๋า เพื่อดึงเข้าหาตัว หรือดึงไปใต้โต๊ะอีกตัวหนึ่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งตำแหน่งใต้โต๊ะ เป็นตำแหน่งที่คนส่วนมากไม่ทันได้สังเกต กรณีแบบนี้เกิดขึ้นแม้อยู่ในร้านอาหารหรู หรือร้านอาหารในโรงแรม ที่สร้างความสงสัยให้นักท่องเที่ยวอยู่เสมอว่า กระเป๋าหายไปได้อย่างไร
19.คนมีน้ำใจ
นักท่องเที่ยวหลายคนอาจเจอกลอุบายแบบนี้ได้ เวลาคุณกำลังจะขึ้นหรือลงจากรถไฟนั้น คุณมีกระเป๋าสัมภาระมากมายที่คุณต้องหอบหิ้วเพื่อให้ขึ้นหรือลงรถไฟได้ทันเวลา พวกมิจฉาชีพก็จะจ้องเวลานี้เลย ทำแกล้งเข้าช่วยเหลือยกกระเป๋าให้คุณแบบคนใจดีมีน้ำใจ สุดท้ายพอเสร็จเรียบแล้วเรียกขอเงิน ถ้าคุณไม่ให้เขาก็ยืนกดดัน เดินตามคุณ บางทีก็ขโมยของ ที่ร้ายแรงสุดอาจมีการทำร้ายคุณก็ได้เช่นกัน
พื้นที่: พบมากๆทางแถบยุโรปตะวัน (เช่น ออสเตรียเชค ฮังการี เป็นต้น) ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน
20.ช่วยยกกระเป๋าขึ้นแท๊กซี่ให้
ถ้าคุณกำลังขึ้นแท๊กซี่ จะมีพวกมิจฉาที่แจ้งท่าน และเข้ามาประชิดตัวท่าน เผื่อช่วยทำมีน้ำใจยกกระเป๋าขึ้นท้ายรถแท๊กซี่ให้ แล้วสุดขู่ขอเงินจากเราแพงๆ ถ้าเราไม่ให้เขาก็ด่าว่าเรา หรือขโมยของ ล้วงกระเป๋า
21.ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟ
ปกติถ้าไปท่องเที่ยวประเทศใดก็แล้วแต่นั้น การเดินทางขึ้นรถขนส่งมลชนสาธารณะนั้น มักเป็นเรื่องใหม่ที่นักท่องเที่ยวอย่างเราต้องศึกษา เวลาไปกดตั๋วที่ตู้ขายตั๋วอัตโมมัติ พวกมิจฉาชีพจะแกล้งมาช่วยเหลือเรา มีทั้งแบบมาคนเดียว และบางทีมาเป็นแก๊งยืนประจำที่ตู้กดตั๋วทุกตู้ ผู้หญิงจะมาช่วยเหลือคุณ ส่วนผู้ชายยืนดูลาดลาว บอกว่าตู้กดตั๋วเสียไม่สามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้ ต้องจ่ายเงินสดเท่านั้น แถมแนะให้จ่ายได้เฉพาะแบงค์ 5,10,20 Euro จ่ายเหรียญก็ไม่ได้ รวมถึงบอกคุณว่าสามารถซื้อตั๋วได้เพียงครั้งละ1คนเท่านั้น ต่อจากนั้นพอคุณจ่ายเงินตามที่เขาแนะนำ มิจฉาชีพจะยืนอยู่ด้านฝั่งทางที่ตู้กดตั๋วจะทอนเงินเหรียญลงมา และในเวลาช่วงนั้นที่คุณได้ทันมอง มั่วแต่สนใจว่า เราจะได้ตั๋วไหม ในช่วงโอกาสนั้น เขาจะขโมยหยิบเงินคุณจากช่องเงินทอนไปทันที แล้วจะทำเป็นเงินทอนมาให้คุณบางส่วนเท่านั้น พอคุณรู้ตัวโว้ยวายใส่เขา เขาก็จะรีบวิ่งหนี้ไปทันที่
พื้นที่: เหตุการณ์แนวนี้พบมากในอิตาลี สเปน ยุโรปตะวันออกและในเมืองใหญ่ๆทั่วไป (ซึ่งอันนี้Admin เคยเจอกับตัวที่มิลานคะ)
22.ให้เซ็นชื่อ
ตามแหล่งท่องเที่ยวจุดหลักจะมีเด็กทั้งผู้หญิงและผู้ชายตั้งแต่วัย 6ปี ขึ้นไปจนถึงวัยรุ่น จะเดินเข้ามาหาคุณพร้อมกระดาษกับกาปาก ซึ่งจะถามคุณว่า You speak English? หากหลวมตัวผยักหน้า หรือพูดคุยกับเขาแล้วล่ะก็ เขาก็ขอให้คุณเซ็นชื่อลงในกระดาษมี้เขาเตรียมมา ซึ่งเขาจะอ้างกับคุณว่า การเซ็นของคุณครั้งจะช่วยเหลือเขาได้ เขาจะอ้างว่า เขาต้องใช้ไปให้ Unicef หรือสถานที่รา
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Facebook : Supeeron Pete Mahasawangkul