เที่ยวสนุกทั่ว ฮอกไกโด ตอนที่ 1: Unseen Hokkaido มุมมองใหม่ในฮอกไกโดที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เกาะริชิริ – เกาะเระบุน (Rishiri Island / Rebun Island), ฮอกไกโด (Hokkaido)
เกาะริชิริ (Rishiri Island) และเกาะเระบุน (Rebun Island) เป็นเกาะที่ให้เราได้เต็มอิ่มกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ทั้งภูเขาและทะเล สามารถเดินทางไปได้แสนสะดวกโดยเรือเฟอร์รีจากวัคคะไน (Wakkanai) ทั้งสองเกาะมีบริการรถบัสนำเที่ยวซึ่งสามารถแวะเวียนไปตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ได้ภายในครึ่งวัน จึงสามารถเที่ยวได้ทั่วทั้ง 2 เกาะภายในเวลา 1 วัน ฤดูที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวที่นี่มากที่สุดก็คือช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงที่พืชพรรณเขตอัลไพน์ผลิบาน และเป็นช่วงที่จะแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก


ภูเขาริชิริ (Mt. Rishiri) คือ 1ใน 100 ภูเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยรูปทรงโค้งมนงดงามคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ทำให้ภูเขาลูกนี้ได้รับการขนานนามว่า “ริชิริฟูจิ (Rishiri Fuji)” ซึ่งแปลว่าภูเขาฟูจิแห่งริชิรินั่นเอง และเกาะริชิริ (Rishiri Island) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งตระหง่านของภูเขาสวยลูกนี้ก็เป็นเกาะที่สวยงามโดดเด่นด้วยป่าดึกดำบรรพ์และห้วยหนองคลองบึงมากมายเหมาะกับการเดินเล่นท่ามกลางป่าเขาอาบสูดกลิ่นอายจากธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจเป็นอย่างยิ่ง
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะแห่งนี้ได้แก่
- บึงฮิเมะนุมะ (Himenuma Pond) ที่งดงามด้วยภาพของภูเขาริชิริสะท้อนลงบนผิวน้ำนิ่งสงบ
- บึงโอะตะโทะมะรินุมะ (Otatomarinuma Pond) ซึ่งเราจะได้เห็นภาพทิวทัศน์เดียวกับที่เห็นบนกล่องขนมชื่อดังของฮอกไกโด
- สวนสาธารณะเซ็มโปชิมิซากิ (Senposhimisaki Park) ซึ่งมีแมวน้ำป่าอาศัยอยู่นั้น ก็จะได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามด้วยน้ำทะเลใสสะอาดของฮอกไกโด
สำหรับเมนูอร่อยประจำท้องถิ่นก็ได้แก่ อุนิเมชิด้ง (Unimeshi-don) หรือข้าวหน้าไข่หอยเม่น และ ยากิโชยุราเม็ง (Yaki-Shoyu Ramen) และเครื่องดื่มมิรุพิซุ (Mirupisu) ของริชิริ
เกาะเระบุน (Rebun Island)


เกาะเระบุน (Rebun Island) ตั้งอยู่ข้าง ๆ เกาะริชิริ (Rishiri Island) เป็นเกาะที่มีดอกไม้งามและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์โดดเด่นด้วยลักษณะทางนิเวศวิทยาสุดแปลกที่มีพืชพรรณแบบอัลไพน์ผลิดอกอยู่ตามชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีมากที่สุดคือช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคมนั้น ที่นี่จะสะพรั่งไปด้วยดอกไม้กว่า 300 ชนิดเลยทีเดียว นับว่า เหมาะกับการเทรกกิ้งหรือเดินป่าสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามของดอกไม้เป็นอย่างยิ่ง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของที่นี่ได้แก่ แหลมซุโคะตง (Cape Sukoton) ซึ่งอยู่เหนือสุดของญี่ปุ่นและสามารถมองเห็นทิวทัศน์แห่งท้องทะเลที่งดงาม และ โมะโมะอิวะ (Momoiwa) เนินหินขนาดยักษ์ที่เกิดจากการฟอร์มตัวของหินหนืดหรือแม็กมา (Magma) จากใต้ท้องทะเลลึก สำหรับอาหารขึ้นชื่อคือ อุนิด้ง (Unidon) หรือข้าวหน้าไข่หอยเม่น และ ฮกเกะโนะจังจังยากิ (Hokke no Chanchanyaki) หรือปลาฮกเกะย่างสไตล์เกาะเระบุนนั่นเอง
Yubari melon
ยูบะริเมลอน (Yubari melon) คือ เมลอนเนื้อสีส้มที่ปลูกในเขตยูบะริ (Yubari) ห่างจากใจกลางเมืองซัปโปโร (Sapporo) 40 กิโลเมตร และจากสนามบินชินชิโตเซะ (Shin Chitose Airport) 40 กิโลเมตร มีลักษณะเด่นคือความหวานจัดและความฉ่ำ เนื่องจากการผลิตมีจำกัด ทำให้ไม่สามารถเก็บยูบะริเมลอนแบบไม่อั้นได้ แต่ในเมืองใกล้กันอย่างฟุระโนะ (Furano) เราสามารถกินยูบะริเมลอนเท่าไรก็ได้ไม่จำกัด แนะนำให้ไปลองสักครั้ง
สวนป่าโทะคะจิ (Tokachi Millennium Forest)
สวนป่าโทะคะจิ (Tokachi Millennium Forest) มีขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยภูเขา พื้นที่กว้างถึง 4 ล้านตารางเมตร เป็นสวนที่สร้างเพื่อให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกับธรรมชาติ ภายใต้แนวคิดการปลูกป่าและเกษตรกรรมแบบผสมผสาน มีทั้งสวนป่าธรรมชาติ ฟาร์มพืชสวนทางการเกษตร และดอกไม้ ฟาร์มเลี้ยงม้า ฟาร์มแพะและแกะ ร้านอาหาร และอาร์ตแกลเลอรี่ สนุกสนานกับการให้นมลูกแพะ หรือกิจกรรมขับ Segway On Tour
เทศกาลโอตารุ สโนว์สตอรี่ (Otaru Snow Story), ฮอกไกโด (Hokkaido)
โอตารุ (Otaru) คือเมืองท่าเก่าแก่ที่เจริญรุ่งเรืองในยุค 100 ปีก่อน แค่ได้เดินเล่นเลียบไปตามริมฝั่งคลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่ไหลผ่านในตัวเมืองพลางชมบรรยากาศย้อนยุคก็เพลินมากแล้ว และงานเทศกาล เทศกาลโอตารุ สโนว์สตอรี่ (Otaru Snow Story) ก็เป็นงานที่แต่งแต้มสีสันให้กับทิวทัศน์หิมะของโอตารุแห่งนี้นั่นเอง ทุกปีในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดไป
สโนว์สตอรี่ (Otaru Snow Story) ภายในเมืองแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่หลัก


1. “Unga Kaijo” จะมีการจัดไฟไลท์อัพสีฟ้าสาดส่องบริเวณสถานีรถไฟโอตารุ (Otaru Station) และบริเวณรอบๆ คลองโอตารุ (Otaru Canal) มีการจัดโดยใช้หลอดไฟ LED สีฟ้าจำนวน 10,000 ดวงประดับเลียบฝั่งสร้างบรรยากาศสีฟ้าสุดโรแมนติกให้กับลำคลองในฤดูหนาว แถมริมทางยังมีรูปปั้นหิมะเล็กๆและแสงไฟจากเทียน
2. “Temiyasen Kaijo” คือระหว่างคลองไปตามรางรถไฟเก่าเทมิยาเซ็น ข้างทางมีซุ้มอาหาร โคมไฟ และรูปปั้นหิมะ คล้ายกันกับพื้นที่ Unga Kaijo เพียงจะต่างกันอยู่ตรงที่จะมีร้านอาหารข้างทางมากกว่า นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะตกแต่งร้านค้าและที่อยู่อาศัยของพวกเขาด้วยโคมไฟและตุ๊กตาหิมะบริเวณด้านหน้าเพื่อให้กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาล
นอกจากนี้ก็มีการจัดงานโยะอิจิ สโนว์สตอรี่ (Yoichi Snow Story) ขึ้นในเมืองโยะอิจิ (Yoichi Town) ที่อยู่ติดกันด้วย ไฟประดับอิลลูมิเนชัน (Illumination) ที่แต่งแต้มสีสันให้กับถนนบริเวณหน้าสถานีรถไฟจะส่องประกายสีเหลืองอำพันสมกับเป็นเมืองแห่งวิสกี้ นับเป็นงานเทศกาลที่น่าไปเที่ยวชมแล้วผ่อนคลายอารมณ์ไปกับสีสันอันอบอุ่นสวยงามอย่างมาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : JNTO.OR.TH