10   สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในเมืองไทยที่คุณไม่ควรพลาด.

พร้อมกันแล้วหรือยัง !! ที่จะออกไปสัมผัสกับบรรยากาศ ธรรมชาติ  อาหาร และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่น เพื่อหลีกหนีจากเชื้อโควิด- 19 และความเหนื่อยล้าจากการทำงาน  เราอยากจะบอกต่อสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในช่วงนี้

ประเทศไทยบ้านเราก็มีธรรมชาติ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่สวยงามไม่แพ้ประเทศไหนในโลก ถ้าหากพร้อมแล้วเราไปรู้จักกับ 10 สถานที่กันเลย

           1. ภูลมโล ดินแดนสีชมพู ซากุระเมืองไทย

 ภูลมโล ตั้งอยู่ในตำบลสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ภูลมโลเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ พิษณุโลกเพชรบูรณ์และเลย สิ่งที่ทำให้ภูลมโลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในเวลานี้คือ เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีพื้นที่กว้างขวางนับ 1000 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติ ที่สวยงามของขุนเขาและอากาศที่หนาวเย็น

             2. ภูทับเบิก

   ภูทับเบิกยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีระดับความสูงถึง 1,768จากระดับน้ำทะเล ทำให้ที่นี่ค่อนข้างมีอากาศที่เย็น ตลอดทั้งปีและที่นี่ยังเต็มไปด้วยนั่นก็คือกะหล่ำปลีลูกกลม ที่รายล้อมปกครองอาณาเขตภูเขาบริเวณนี้ไว้ต่อเนื่องไปหลายต่อหลายลูกจนทำให้ที่นี่กลายเป็น “บ้านเกิดของกะหล่ำปลี” เหมาะมากสำหรับสายแคมป์ปิ้ง กางเต้นท์ฟินๆ รับลมหนาว

           3 . ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา

  เจ้าเชื่อพญานาคบ่ !! หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น “ถ้ำนาคา” ถ้ำที่ถูกค้นพบใหม่ ภายในอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ นอกจากนักท่องเที่ยวที่อยากขึ้นไปชมความสวยงาม ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแล้ว นักท่องเที่ยว “สายมู” ที่มีความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค ก็ไม่พลาดที่จะเยือนสักครั้งในชีวิต

            4. รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

เปิดประสบการณ์ใหม่กับจุดชมวิวรถไฟลอยน้ำกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เขื่อนดินที่ไว้สำหรับกักเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในไทย สร้างขึ้นจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมตรงบริเวณนี่รถไฟจะจอด 30 นาที ท่านสามารถลงถ่ายรูปกับ Unseen รถไฟลอยน้ำซึ่งจะวิ่งและจอดตรงบริเวณกลางเขื่อน เฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมของทุกปี

             5 . เบตง ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

   จุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิตของเบตงที่เดินทางสะดวกรถขึ้นถึง และมีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง  ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเบตง ประมาณ 40 กิโลเมตร ในพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 เมตร เป็นทะเลหมอกที่ใหญ่และสวยงาม ในช่วงเวลาเช้าจุดชมวิวแห่งนี้จะกลายเป็นสวรรค์บนดินเปิดให้นักท่องเที่ยวเต็มอิ่มกับทะเลหมอก  สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์ และทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาไมโครเวฟ และยังมีสกายวอล์คบริเวณทะเลหมอกอัยเยอร์เวงทอดยาวสำหรับเดินชมทะเลหมอกได้แบบสวยงามอีกด้วย

             6. หมู่บ้านแม่กำปอง เชียงใหม่

         ภาพจาก : chinoToshare

กลายเป็นกระแสของการมาเที่ยวที่เชียงใหม่เว่อร์ ทุกคนพูดถึงแม่กำปอง ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศของหมู่บ้านที่เหมือนที่ญี่ปุ่นบ้าง ของกินสตรีทฟู้ดที่อร่อยจนต้องมาลอง และที่ฟินไปหลายตลบคืออากาศที่เย็นสบายตลอดปีโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน พร้อมเสียงน้ำไหลให้จิตใจได้ผ่อนคลาย

             7 .  หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ

     หินสามวาฬ หนึ่งในจุดสถานที่ท่องเที่ยวของ ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และ       ป่าดงสีชมพู อีกทีค่ะ โดยบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยกลุ่มก้อนหินรูปทรงต่างๆ หน้าผา และถ้ำ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ เกิดเป็นความสวยงามในแบบต่างๆ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางมาเห็นด้วยตาตัวเอง  โดยที่บริเวณของ หินสามวาฬ นั้น จะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อนใหญ่ๆเรียงต่อกันมีอายุประมาณ 75 ล้านปีเลยทีเดียว ความพิเศษของหินก็คือ เมื่อมองดูจากระยะไกลๆ หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ มีทั้งพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ นั่นเองค่ะ ซึ่งก็จะถูกเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน

               8 . วัดผาตากเสื้อ

    วัดผาตากเสื้อ ตั้งอยู่ในอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง วัดแห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่สถานที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความงดงามตามธรรมชาติ  มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงามอย่างไม่ขาดสาย ภายในวัดมองเห็นวิวของแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง หากมาเที่ยวในช่วงเช้าอาจมีโอกาสได้เห็นสายหมอกบางที่ลอยเหนือแม่น้ำโขง  ส่วน ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวสนใจ คือ  Skywalk  ที่มองเห็นแม่น้ำโขงอยู่เบื้องล่างกั้น   ระหว่างประเทศไทยและลาว เป็นพื้นกระจกที่ยื่นออกมาจากหน้าผาให้นักท่องเที่ยวได้เดินออกไปสัมผัสกับบรรยากาศบนกระจกใสแบบตื่นเต้น โดยเฉพาะในเวลาเช้าอาจมีโอกาสได้เห็นสายหมอกลอยคลอเคลียอยู่เหนือน้ำโขงอีกด้วย

                9 .  หมู่เกาะสิมิลัน

   เกาะสิมิลัน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน ที่หินเรือใบที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะสิมิลัน มีอ่าวเกือกเป็นรูปโค้งเหมือนเกือกม้า หาดทรายขาวละเอียดเนียน นุ่ม น้ำทะเลใสน่าเล่น ใต้ทะเลมีปะการังสวยงามหลายชนิด และปลาประเภทต่างๆ ที่มีสีสันสวยงามมากมาย เป็นเกาะที่สามารถดำน้ำทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น และทางด้านเหนือของเกาะนอกจากมีหินเรือใบแล้ว ยังมีหินรูปร่างแปลกตา เช่น หินรูปรองเท้าบูท หินรูปหัวเป็ดโดนัลด์ดั๊ก บนจุดชมวิวหินรูปเรือใบ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่จะมองเห็นความสวยงามของท้องทะเลได้กว้างไกล

               10 .  ถนนคนเดินเชียงคาน

ภาพจาก : www.lapakteaw.com

     ถนนคนเดินเชียงคาน จ.เลย สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของเชียงคาน ที่ต้องบอกว่าถ้าไม่ได้ไปถือว่ามาไปไม่ถึงเชียงคาน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับตลาดอื่น จากความคลาสสิคของบ้านไม้สองข้างทางที่ยาวตลอดถนนคนเดิน จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบเหมือนได้ย้อยยุคไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบเก่าๆยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งของกินของใช้  งานศิลปะอื่นๆ ในช่วงเช้ายังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวเชียงคานออกมาตักบาตรข้าวเหนียว และยังมีสวนสาธารณะริมแม่น้ำโขงให้นั่งพักผ่อน นั่งชมวิวพระอาทิตย์ จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในฤดูหนาวของวันหยุด

และนี่คือ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่มาแรงมากในช่วงนี้ อยากไปกันแล้วใช่ไหมล่ะครับ ถ้าหากทุกท่านไม่อยากพลาดประสบการณ์ดีดีแล้วล่ะก็ ทุกท่านสามารถเข้ามาเลือกโปรแกรมการท่องเที่ยวกับทางกังวาลฮอลิเดย์ได้ที่  https://www.kangwal.com/ ครับ